วิ่งเทรล ต่างกับ วิ่งมาราธอน ยังไง
วิ่งเทรลก็คือ การวิ่งแบบผจญภัยกับธรรมชาติเลย เช่น วิ่งในป่า วิ่งบนภูเขา วิ่งข้ามผ่านทุ่งหญ้า ตามแต่ละภูมิประเทศของสถานที่จัดงาน ซึ่งจะสร้างความแตกต่าง และสร้างบรรยากาศได้มากกว่าการวิ่งมาราธอน และมีอรรถรสในการวิ่งอย่างมากเลยล่ะครับ เพราะแต่ละสถานที่ก็จะแตกต่างกันออกไป ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าเราจะเจอทางแบบไหน เจอดิน เจอหิน เจอทราย เจอเนิน ต่างกับการวิ่งมาราธอนที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็จะวิ่งผ่านพื้นที่เรียบซะเป็นส่วนใหญ่ อาจจะวิ่งบนท้องถนนบ้าง ในสวนสาธารณะบ้าง แล้วแต่งานที่จัดขึ้น
‘เป้น้ำ’ ไอเทมสำคัญที่นักวิ่งมาราธอน และนักวิ่งเทรล ต้องมี!
แต่ถึงแม้ทั้งการวิ่งมาราธอน และการวิ่งเทรลมันจะมีความแตกต่างกันแค่ไหนก็ตาม แต่อุปกรณ์อย่างนึงที่เพื่อนๆ จะขาดไปไม่ได้เลย และต้องใช้เหมือนกันในทุกๆ การวิ่งก็คือ ‘เป้น้ำ’ นี่แหละครับ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในของไม่กี่อย่างที่ซื้อมาใช้เมื่อไหร่ก็คุ้มค่ามากที่สุด เพราะเราสามารถนำไปใช้ได้กับทุกประเภทการวิ่ง ลงทุนครั้งเดียวใช้งานได้ยาวๆ เนื่องจากร่างกายเราเวลาวิ่งนานๆ ก็จะเกิดการสูญเสียน้ำออกมาทางเหงื่อ ทำให้เราต้องดื่มน้ำเติมเข้าไปตลอดทาง โดยเฉพาะการวิ่งทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นการวิ่งระยะไกล ทำให้มีโอกาสเสี่ยงอันตรายมากที่สุด ดังนั้นการเตรียมเป้น้ำไว้จึงช่วยให้การวิ่งของคุณปลอดภัยขึ้นกว่าเดิม
4 วิธีเลือกเป้น้ำอย่างคุ้มค่า วิ่งมาราธอน วิ่งเทรล ห้ามพลาด
เพราะระยะทางการวิ่งมาราธอน และการวิ่งเทรลที่ไกล บวกกับสภาพพื้นที่ในบางครั้งเองก็อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการตั้งจุดบริการน้ำดื่ม ทำให้นักวิ่งส่วนใหญ่หรือแทบจะทุกคนต้องพกเป้น้ำประจำตัวของตัวเองมาเพื่อเติมความสดชื่นให้กับร่างกาย โดยการเลือกเป้น้ำที่มีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ได้ตรงตามความต้องการ และที่สำคัญคุ้มค่ากับการใช้งานก็คือ…
1. งบประมาณของเรา
เพราะเป้น้ำนั้นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป มีหลายแบบ หลายราคา เริ่มต้นตั้งแต่ 1,000 บาท ไปจนถึง 5,000 บาท เลยก็มี เพราะฉะนั้นอันดับแรกนักวิ่งทุกคนควรถามตัวเองก่อนว่าเรามีงบสำหรับส่วนนี้มากน้อยแค่ไหน โดยเราอาจจะคำนวนเอาจากความคุ้มค่าในการใช้งานของเราก็ได้ ถ้าเราวิ่งบ่อยก็จัดหนักได้เลย เพราะยังไงมันก็คุ้มแน่นอน แต่ถ้าไม่ได้ไปวิ่งเทรล วิ่งมาราธอนมากขนาดนั้นก็อาจลดฟังก์ชั่นการใช้งานลงมาหน่อย เพื่อให้ได้ราคาที่ถูกลง
2. ระยะทางการแข่งขัน
เป้น้ำที่เราจะใช้ก็ควรให้มีความสัมพันธ์กันกับระยะทางการวิ่งของเราด้วยนะครับ เพราะปริมาณน้ำที่พกไปเนี่ย ยิ่งหนักมันก็ยิ่งเหนื่อย แต่ถ้าเบาๆ แล้วต้องวิ่งไกล เราอาจจะใช้ไม่พอก็ได้ เพราะยิ่งไกลมากขึ้นก็ต้องดื่มน้ำมากขึ้น ดังนั้นให้เลือกขนาดปริมาตรของกระติกน้ำที่จะพกพาให้เข้ากับระยะทางการแข่งขัน หรือดูจากสภาพร่างกายเรา ความชอบของเรา ว่าเราวิ่งในระยะไหนอยู่เป็นประจำ เพื่อจะได้ไม่ต้องแบกน้ำหนักเกินจำเป็น รวมทั้งสามารถประหยัดเงินได้อีกด้วย
3. ความพอดีกับร่างกาย
เพราะสรีระคนเรามีความแตกต่างกัน ทำให้เป้น้ำบางอย่างอาจจะไม่เหมาะกับเราได้ ซึ่งก็เหมือนกับการเลือกรองเท้าวิ่งนั่นแหละครับ เราก็ต้องเลือกที่พอดีตัว ใส่แล้วรู้สึกสบาย แนะนำว่าทางที่ดีเลือกเป้น้ำที่แนบสนิทไปกับแผ่นหลัง กระชับ ไม่เด้งไปมาขณะวิ่งดีที่สุด ซึ่งเป้น้ำที่ดีจะช่วยให้เคลื่อนที่ได้อย่างคล่องตัว ไม่ต้องกังวลเรื่องความไม่สะดวกสบาย
4. Feature ที่เพิ่มเติม
เมื่อได้ 3 คุณสมบัติหลักๆ เรียบร้อยแล้ว ทีนี้ก็ให้เพื่อนๆ เลือกจากความต้องการ รวมถึงความพิเศษเฉพาะของเป้น้ำนั้นๆ ได้เลย โดยบางรุ่นอาจจะมีความสามารถในการระบายอากาศ ระบายน้ำ สายสะพายไหล่นุ่มสบาย ลดการเสียดสี กระเป๋าด้านหลังระบายอากาศดี น้ำหนักเบา มีแผ่นเสริมสำหรับใส่น้ำแข็ง หรือมีฉนวนกันความร้อนให้ด้วย ตรงนี้ก็เลือกซื้อได้ตามที่ต้องการเลย
ซึ่งถ้าเพื่อนๆ คนไหนกำลังมองหา ‘เป้น้ำ’ สำหรับวิ่งมาราธอน วิ่งเทรล ที่มีคุณสมบัติครบทั้ง 4 ข้อนี้อยู่ล่ะก็ คลิกที่นี่ได้เลย https://aonijie.co.th เพราะร้านของเรามีอุปกรณ์จำเป็นสำหรับนักวิ่งทั้งมือใหม่ และมืออาชีพ รอต้อนรับเพื่อนๆ ทุกคนในราคาที่สบายกระเป๋าสุดๆ สินค้าทุกชิ้นได้คุณภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของนักวิ่งโดยเฉพาะ มั่นใจได้เลยว่าจะช่วยให้การวิ่งของเพื่อนๆ เป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายขึ้นกว่าเดิม!!!